เหตุผล 4 ข้อว่าทำไมคุณจึงควรเลือกใช้ QNAP NAS ร่วมกับฮาร์ดไดรฟ์ Western Digital®

คุณเห็นว่าการจัดการข้อมูลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องยากและต้องลงทุนลงแรงมากขึ้นๆ ใช่ไหม? หรือคุณต้องการทำให้มั่นใจว่าได้สำรองข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่งของคุณไว้อย่างถูกต้องแล้วใช่ไหม? คุณทราบหรือไม่ว่าคุณมีทางเลือกอื่นๆ อีกในการใช้ QNAP และไดรฟ์ WD Red™ สำหรับ NAS เพื่อช่วยในการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน นอกเหนือจากที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์? คุณต้องการวิธีการที่ง่ายกว่าและสะดวกยิ่งกว่าในการแชร์ไฟล์กับเพื่อนๆ ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานของคุณใช่ไหม?

ขจัดความยุ่งยากในการจัดการข้อมูลของคุณด้วยรุ่นโปร สร้างโซลูชันอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล NAS ระดับมืออาชีพของคุณ ด้วย QNAP และฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ สำหรับ NAS ที่ถือความปลอดภัยและการจัดการสิทธิในการเข้าถึงเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด

การเลือกซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล NAS – สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา:

  • พื้นที่เก็บข้อมูลมีขนาดความจุเพียงพอหรือไม่? มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?

  • จะปลอดภัยกว่าไหม ถ้าฉันจัดเก็บข้อมูลของฉันไว้ใน NAS?

  • ประสิทธิภาพของ NAS มีความสำคัญกับคุณไหม?

  • ภาระงานด้านธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์ และ AI ของคุณรับประกันความน่าเชื่อถือได้ตลอด 24/7 หรือไม่?

รวมชุดคอมโบ้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของ QNAP NAS และฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ สำหรับ NAS แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Plus และ WD Red™ Pro สำหรับ NAS ที่ปรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับแอปพลิเคชันการจัดเก็บข้อมูลระบบ NAS – สามารถทำงานได้กับฟีเจอร์ต่างๆ ของ NAS ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ จาก QNAP ได้อย่างลื่นไหล – คือตัวเลือกการลงทุนที่ชาญฉลาดของคุณ

โซลูชันอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่รองรับความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในอนาคตของคุณ

ด้วยขนาดความจุของฮาร์ดไดรฟ์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และราคาของพื้นที่จัดเก็บต่อ TB ที่ลดลง การสร้างระบบ NAS ของคุณเองจึงมีราคาที่ถูกกว่าแต่ก่อนมาก คุณสามารถเลือกที่เก็บข้อมูลที่มีความจุสูงสุดถึง 12TB* โดยใช้ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Plus สำหรับ NAS หรือจะเลือกความจุขนาดใหญ่มากๆ ได้สูงสุดถึง 26TB* โดยใช้ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Pro สำหรับ NAS หรือเลือกที่เก็บข้อมูลที่มีความจุสูงสุดถึง 78TB* โดยใช้ร่วมกับ QNAP TS-464 ใน RAID 5 ก็ได้

คุณยังต้องการความจุมากกว่านี้อีกหรือ? ไม่มีปัญหา! QNAP เป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมโซลูชัน JBOD ที่สามารถขยายความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลได้สูงสุดหลายร้อยเทราไบต์* ได้ตลอดเวลา เพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์ขยายพื้นที่จัดเก็บระบบ JBOD เท่านั้น

จัดเก็บข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัยอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของ NAS

ป้องกันข้อมูลสูญหายด้วยการทำซ้ำข้อมูล RAID ของ NAS ซึ่งสำรองข้อมูลที่สำคัญมากๆ ของคุณในกรณีที่ฮาร์ดไดรฟ์เสีย ถึงแม้กรณีนี้จะเกิดขึ้นได้ยากก็ตาม นอกจากนี้ QNAP NAS ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ไดรฟ์ DA ด้วยระบบ AI ซึ่งเป็นเครื่องมือการคาดการณ์ที่สามารถคาดการณ์ไดรฟ์เสียได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างและสำรองสแนปช็อตบน NAS เพื่อกู้คืนไฟล์และข้อมูล เมื่อมีสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้น

ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Plus และ WD Red™ Pro สำหรับ NAS ไม่เพียงได้รับการปรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการควบคุมการกู้คืนเมื่อเกิดข้อผิดพลาดใน RAID เพื่อช่วยลดความล้มเหลวภายในระบบ NAS เท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยี Active Balance Plus ของ Western Digital สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนมากเกินไปอีกด้วย

  • ประสิทธิภาพของ NAS ที่มีความเร็วสูงเป็นพิเศษ เมื่อเวลาคือสิ่งสำคัญสูงสุด

    ด้วยสายผลิตภัณฑ์ของโซลูชันต่างๆ ของ NAS ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับกันทั่วไป QNAP NAS จึงสามารถส่งมอบประสิทธิภาพที่ครบครันได้ ตั้งแต่ความสามารถในการประมวลผลของโพรเซสเซอร์ ไปจนถึง GPU ในตัว และการเชื่อมต่อเครือข่ายความเร็วสูง TS-464 ที่ติดตั้งพอร์ต 2.5GbE ไว้ให้ถึงสองพอร์ต มีเทคโนโลยี SMB Multichannel ที่ทำให้ถ่ายโอนไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้อัปเกรดเป็น 10GbE

    ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Plus สำหรับ NAS ผ่านการทดสอบความเข้ากันได้ที่ครอบคลุมโดยผู้จัดหาระบบ NAS รายสำคัญๆ ว่าสามารถเข้ากันได้กับส่วนประกอบและระบบ NAS ของพวกเขา ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Plus มีเฟิร์มแวร์ขั้นสูงที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท และเทคโนโลยี NASware™ ที่จะปรับระบบ NAS ของคุณให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้มีความเชื่อถือได้และประสิทธิภาพสูงสุดในสภาพแวดล้อม NAS อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ทำให้การจัดเก็บ การแชร์ และการค้นหาบน NAS เป็นเรื่องง่ายและเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

เพลิดเพลินกับการใช้งานระบบคลาวด์ส่วนตัวด้วย QNAP NAS เพื่อสำรองข้อมูลและเข้าถึงไฟล์ทั้งหมดของคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา และเมาต์โฟลเดอร์ของ NAS กับเครื่อง Mac หรือพีซีได้อย่างง่ายดาย ด้วยโพรโทคอล SMB ที่ใช้ง่าย และเข้าถึงไฟล์ NAS ได้อย่างไม่มีสะดุดด้วยวิธีการที่เรียบง่าย หรือซิงโครไนซ์ไฟล์เหล่านี้ สำหรับการแชร์และการทำงานร่วมกันในที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ป้อนคำสำคัญก็สามารถเรียกใช้ไฟล์ได้แทบจะในทันที นี่ช่างรวดเร็วและสะดวกอย่างไม่น่าเชื่อเลย! เมื่อเทคโนโลยีก้าวล้ำยิ่งขึ้น และโซลูชันที่เก็บข้อมูลก็มีราคาถูกลงเรื่อยๆ การเป็นเจ้าของ NAS จึงความมีสมเหตุสมผลมากกว่าการลงทะเบียนบริการระบบคลาวด์แบบสาธารณะที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายเดือน

คุณจะเลือก NAS ที่เหมาะสมได้อย่างไร?

NAS รุ่นที่ใช้ระบบ ARM เหมาะสำหรับการสำรองข้อมูลและการเข้าถึงไฟล์แบบปรกติทั่วไป โดยประหยัดพลังงานมากที่สุด ในขณะที่ NAS รุ่นที่ใช้ระบบ x86 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูงกว่า และเรียกใช้หลายๆ แอปพลิเคชันพร้อมกัน หรือรันเครื่องเสมือนพร้อมกันหลายเครื่อง

QNAP ได้บุกเบิกในการนำ 2.5GbE มาใช้งาน โดยรวมเข้าในระบบเป็นมาตรฐานสำหรับระบบ QNAP NAS ทั้งหมด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 การทำดังกล่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ได้ความเร็วของเครือข่ายที่เร็วกว่า 1G ถึง 2.5 เท่า โดยใช้สายอีเทอร์เน็ต CAT5e ถ้าคุณต้องตัดต่อและแก้ไขวิดีโอ หรือใช้งานไฟล์ร่วมกันสำหรับผู้ใช้หลายคน การเลือกใช้ NAS ที่มีพอร์ตเครือข่าย 10GbE หรือความเร็วสูงกว่านี้จะทำให้สามารถประมวลผลไฟล์ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

QTS ใช้ระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งใช้งานง่าย, สามารถใช้งานหน่วยความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และเป็นระบบ NAS ที่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ส่วน QuTS hero ใช้ระบบไฟล์ ZFS ซึ่งมีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองได้ และยังมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการป้องกันข้อมูลและการลดปริมาณข้อมูลด้วย เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ใช้ QuTS hero ถ้าคุณเป็นผู้ใช้มืออาชีพหรือองค์กรธุรกิจ

สล็อต PCIe® ช่วยให้ระบบ NAS มีศักยภาพในการขยายพื้นที่จัดเก็บที่ดียิ่งขึ้น จึงทำให้คุณสามารถติดตั้งการ์ดเครือข่าย, การ์ดแสดงผล, การ์ดเครือข่ายแบบไร้สายที่มีความเร็วสูง หรือติดตั้งสล็อต M.2 เพิ่มอีก เพื่อเพิ่มจำนวนของ M.2 SSD, พอร์ตเครือข่าย และความสามารถในการประมวลผลของ NAS คุณควรนำจำนวนของสล็อต PCIe® มาประกอบการพิจารณาด้วย ถ้าคุณต้องการให้ระบบ NAS ของคุณมีความสามารถใช้งานที่สูงขึ้น และสามารถติดตั้งการ์ดหรืออุปกรณ์เสริมเพิ่มได้ในอนาคต

GPU ในตัวสำหรับ NAS ช่วยเร่งความเร็วในการเรนเดอร์กราฟิก และทำให้สามารถแปลงรหัสมัลติมีเดียได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น GPU ในตัวจึงเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการแชร์วิดีโอที่จัดเก็บอยู่บน NAS กับผู้ใช้คนอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ต

อะไรคือปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้ฮาร์ดไดรฟ์สำหรับ NAS?

ในขั้นแรก สิ่งสำคัญคือคุณต้องเลือกฮาร์ดไดรฟ์ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ NAS อย่างเช่นซีรีส์ WD Red™ ที่มีฟีเจอร์การป้องกันการสั่นสะเทือน และได้ผ่านการทดสอบความเข้ากันได้กับผู้ผลิต NAS เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะทำงานอย่างเชื่อถือได้ตลอดทุกวัน ทุกเวลา

ฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Plus สำหรับ NAS มีขนาดความจุสูงสุดถึง 12TB* โดยพื้นฐานแล้วได้รับการออกแบบมาสำหรับระบบ NAS แบบเดสก์ท็อปที่มีช่องไดรฟ์สูงสุด 8 ช่อง รุ่นนี้เหมาะสำหรับการจัดการกับภาระงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น การสตรีม, การสำรองข้อมูล และการแชร์ไฟล์ในบ้านหรือสำนักงานเล็กๆ

ส่วนฮาร์ดไดรฟ์ WD Red™ Pro สำหรับ NAS มีขนาดความจุสูงสุดถึง 26TB* และรองรับ NAS รุ่นต่างๆ ที่มีช่องไดรฟ์สูงสุดถึง 24 ช่อง รุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กรที่ต้องจัดเก็บและจัดการไดรฟ์ข้อมูลขนาดใหญ่

ฮาร์ดไดรฟ์ Western Digital® Ultrastar® มีขนาดความจุสูงสุดถึง 26TB* จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ข้อมูลปริมาณมากในเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลขององค์กร สำหรับโซลูชันอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลระดับธุรกิจและองค์กรที่มีช่องไดรฟ์มากกว่า 16 ช่อง ให้เลือกใช้ฮาร์ดไดรฟ์ Ultrastar® ที่มีประสิทธิภาพระดับองค์กรของเรา ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับมือกับอัตราภาระงานหนักได้สูงสุดถึง 550TB* ต่อปี

ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้โดยส่วนใหญ่จะเหมือนกัน บริษัทมีสายผลิตภัณฑ์ฮาร์ดไดรฟ์ที่มีประสิทธิภาพระดับองค์กร 2 สายผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความคุ้นเคยต่อแบรนด์และความชื่นชอบในสายผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกไปของลูกค้า

เลือกสเปค

      ดูเพิ่มเติม น้อยลง

      This site in other countries/regions:

      open menu
      back to top